เทพโอซีริส (Osiris) เทพแห่งสันติ ของชาวอียิปต์
ชื่อนี้คือชื่อเทพรุ่นแรกสุดของอียิปต์
เป็นเทพที่ได้ชื่อว่ารังเกียจความรุนแรงจับใจที่สุดองค์หนึ่ง ความรังเกียจเช่นนี้กลายเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจจริงๆ
ไม่ช้าไม่นานเมื่อท้าวเธอต้องกลายมาเป็นเทพผู้ปกครองอียิปต์พระองค์พบว่า
ประชากรอันมากมายของพระองค์เวลานั้นเป็นพวกป่าเถื่อนแบบบริสุทธิ์จริงๆ
ทั้งไม่สามรถคิดอ่านอะไรเองได้เนื่องจากความไม่รู้ และยังไร้ศีลธรรมอีกด้วย
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม
โอซิริสก็ยังสามรถโน้มน้าวบรรดาประชาชนเหล่านั้นให้มาเชื่อฟังกฎระเบียบของ
พระองค์ได้
เชื่อไหมว่าพระองค์สอนด้วยวิธีสันติเพียงอย่างเดียวให้รู้ถึงการอยู่ร่วมกัน
อย่างเป็นสุข ตั้งสังคมขึ้น และบริหารสังคมนั้นด้วยวินัยและศีลธรรม
โอซิริสสอนให้มีการเพาะปลูกทั่วไป สอนให้ทำขนมปังเป็นอาหาร
แถมยังสอนให้หมักไวน์และเบียร์เพื่อความสนุกสนานอีกซะด้วย
โอซิริ
สสร้างบ้านแปลงเมือง สร้างวัดวาอารามและมีการสร้างเทวรูปไว้บูชาเป้นรูปแรก
พระองค์สร้างดนตรีไว้เพื่อความเพลิดเพลินและการบูชาภายใต้การปกครองของโอซิ
ริสและมเหสีคือ ไอซิส (Isis)
อียิปต์กลายเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ในโลกโบราณเชียวล่ะ
แล้วตอนนั้นเองที่โอซิริสตั้งใจว่าจะเผยแพร่อารยธรรมของพระองค์ไปทั่วโลก
แต่
เนื่องจากเป็นคนที่เกลียดความรุนแรง
ในการเผยแพร่อารยธรรมในครั้งนี้โอซิริสจึงไม่ได้ใช้กำลังทางทหารเลย
พระองค์ใช้เวทมนตร์ของดนตรีและบทเพลงของพระองค์เท่านั้น
แต่ว่าชาติแล้วชาติเล่าก็ต้อนรับอารยธรรมที่พระองค์นำไปให้
ท้ายที่สุดเมื่อโอซิริสกลับถึงบ้านพระองค์ก็ได้เผยแพร่ความเจริญให้กับส่วน
อื่นๆ ของโลกจนครบ
ส่วนในอียิปต์ตอนที่โอซิริสไม่อยู่
ราชินีไอซิสก็ได้สานต่องานของพระสวามีด้วยการสอนผู้หญิงอียิปต์ในงานปั่น
ด้ายและทอผ้า สอนให้ผู้ชายรักษาคนป่วย ไอซิสคิดค้นการแต่งงาน
ซึ่งทำให้ผู้หญิงและชายจะแบ่งปันความสุขและแรงงานระหว่างกัน
ภายใต้การปกคองที่รุ่งเรืองของโอซิริสและไอซิสโลกของเราน่าจะมีสนติสุขจริงๆ
แต่นั่นจะต้องไม่มีเซท (Set)
น้องชายทรยศของโอซิริสเองซึ่งเป็นผู้ทำให้ยุคทองนี้ล่มสลายลง
ด้วย
นิสัยของมนุษย์เรานี่ละ ใช่ว่าจะมีคนแบบเดียวกันทั้งโลก
ดังนั้นพวกที่มีจิตคิดอิจฉาริษยาจึงเข้าพวกกับเซทกันมากเหมือนกัน
และพวกที่ร้ายๆ แบบนี้ก็พากันหาอุบายมาฆ่าโอซิริสจนสำเร็จ
จักการเอาพระศพยัดลงโลง แล้วเอาไปถ่วงในแม่น้ำไนล์
แต่ว่าโลงพระศพกลับล่องลอบออกไปทางปากแม่น้ำสู่ทะเลจนไปเกยฝั่งที่ฟีเนีย
เซีย
ราชินีไอซิสผู้โศกเศร้าได้พยายามติดตามหาพระศพของพระสวามีจนมาพบและได้ช่วย
ชุบชีวิตของพระองค์ขึ้นมาใหม่
ความผิดพลาดของการที่พระองค์ไม่
ปรารถนาที่จะใช้กำลังรุนแรงนนี่ละทำให้พระองค์พลาดอีกครั้งอย่างจังเบอร์เลย
เมื่อพระองค์ไม่ลงทัณฑ์เซท
กลับปล่อยเอาไว้ให้เป็นเสี้ยนหนามในที่สุดไม่ช้าไม่นานเซทก็วางแผนฆ่า
พระองค์อีกจนได้ คราวนี้สับพระศพแยกออกเป็นส่วนๆ ถึงสิบสี่ชิ้น
กะไม่มีการชุบชีวิตขึ้นได้อีกครั้งโดยเด็ดขาด
แล้วเอาชิ้นส่วนเหล่านี้ไปโปรยทั่วอียิปต์
ร้อนถึงไอซิสผู้โชคร้ายต้องติดตามชิ้นส่วนของพระสวามีตามที่ต่างๆ
นำมาประกอบเป็นรูปร่าง
และคิดค้นเทคนิคการดองศพเพื่อชุบโอซิริสขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง
แต่
ว่าคราวนี้พระองค์กลับได้รับการเลือกให้เป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งความตายนิ
รันดร์ เป็นที่ซึ่งพระองค์จะไม่คืนมาสู่อียิปต์ในรูปของมนุษย์อีกต่อไป
อียิปต์ในความดูแลของพระองค์เหลือเพียงเรื่องของการอำนวยผลแห่งความอุดมของ
ดินและสายน้ำที่เป็นแหล่งก่อกำเนิดชีวิตของแม่น้ำไนล์ แล้วเซทผู้ริษยาล่ะ
หลังจากที่ฆ่าพี่ชายตายจนโอซิริสกลายเป็นเทพแห่งอาณาจักรในความมืดเซทยังไม่
ลดละความริษยาลงเลย ยังคงตามจองล้างด้วยการนำเอาความแห้งแล้ง
และพายุทรายมารบกวนอียิปต์อยู่เนืองๆ
ส่วนไอซิสราชินีหม้าย
ซึ่งแสนจะโสกเศร้ากับการจากไปของพระสวามีก็มีชะตากรรมสุดท้ายที่ไร้ความสุข
เมื่อโอรสของพระองค์กับโอซิริสคือ โฮรัส (Horus) ต้องการจะแก้แค้นเซท
พระนางทรงห้ามด้วยไม่ต้องกานให้เกิดความรุนแรงขึ้นตามนโยบายของพระสวามี
แต่คราวนี้โฮรัสเกิดบันดาลโทสะฟาดดาบตัดศีรษะพระมารดาสิ้นชีพ
พระนางไอซิสหลังจากสิ้นชีพแล้วก็กลายเป็นเทวีที่ช่วยให้คนตายได้ไปพบกับโอซิ
ริส ฉะนั้นคนดีที่กำลังจะตายเห็นจะไม่ต้องกลัวอะไร
เพราะเทพและเทวีคู่นี้จะเป็นผู้นำทางเขาไปนิรันดร์กาล
อ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น